สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ถ้ามีกล้องติดหน้ารถ คดีนี้ไม่เกิน 3 วันจบ คนเจ็บที่คันหน้าไปชน ไม่ต้องไปดูด้วย ผมเพิ่งจะโดนมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ปาดเข้ามาในเลนผม แล้วชนเข้าด้านข้าง ขับหนีไปอีกเกือบ 500 เมตร พอตามทันสันดานแมว ๆ ออก บอกว่าข้ามเลนไปชนมัน มันก็เถียงว่าไม่ผิด ไม่ยอมรับ ให้เรียกระกันพอประกันมาเลยปล่อยให้มันใส่ความไปก่อน พอมาครบ 2 ฝ่าย พร้อมตำรวจ เลยบอกให้มันไปแจ้งความเอาไว้ พอตำรวจเขียนใบแจ้งความเสร็จมันเซ็นรับเรียบร้อย ค่อยหยิบกล้องมาเปิด แล้วบอกว่า ผมลืมไปว่ามีกล้องหน้ารถ พอดูจบประกันฝั่งผมก็แจ้งว่าเป็นฝ่ายถูกทันที เลยถามตำรวจไปว่า แจ้งความเท็จนี่ผิดมั้ยครับ
ความคิดเห็นที่ 64
ผมอ่านแล้วก็สงสารคุณด้านความรู้สึกมากกว่าทางคดีเสียอีก ใครไม่เจอกับตัวเองอาจจะไม่ทราบ ส่วนในทางคดี อาจมีสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ หรือไม่รู้ และข้อเท็จจริงจะเป็นไปอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะใช่แบบที่คุณเล่ามาหรืออาจไม่ใช่ ผมเป็นทนายความ หากคุณต้องการที่ปรึกษาใครสักคนที่พอช่วยเหลือได้ การสู้คดีก็ต้องสู้เท่าที่มีปรากฏอยู่เท่านั้น ลองโทรมาหาผมละกัน ผมไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือหากคุณอยู่ไกลจนผมไม่สามารถไปได้ ผมอาจเพียงให้คำปรึกษา ดีกว่ากลุ้มอยู่คนเดียว โทร 0823414210 เผื่อมีทางออก
ความคิดเห็นที่ 14
ปถึงที่เกิดเหตุ ดิฉันก็เห็นรถร่วมกตัญญูมาถึงและกำลังช่วยเหลือรถผู้บาดเจ็บอยู่
รถดิฉันเป็นรถเล็กค่ะ คุณแม่ขับรถไม่เร็ว ไม่เกินร้อย ถนนเป็นสี่เลนส์
ขาไปสอง-ขากลับสอง สภาพรถคือ รถข้างหน้าดิฉัน(ดีแมกซ์) เบรคกระทันทัน
รถดิฉัน(ซิตี้)ที่แม่ขับเบรคไม่ทันจึงชนท้ายกับดิแมกซ์ กระโปรงหน้ารถเรายุบ แต่รถเรายังสามารถขับได้อยู่
ท้ายดีแมกซ์ไม่มีร่องรอยการโดนชนแต่อย่างใด เพราะชนไม่แรง พ่อไม่คาดเข็มขัดก็ไม่ได้เป็นไร
แต่รถดิแมกซ์ถลาไปไกลทำท่าจะเบรค แต่อยู่ๆก็เหมือนเหยียบ
คันเร่งกระโจนขึ้นฟุตบาทลอยข้ามเลนส์ไปทับกับวีโก้อีกเลนส์ที่วิ่งไม่รู้อิโหน่งอิเหน่สวนมา
จากที่บอกก่ำกึ่งว่า รถซิตี้ อาจไม่ผิด เพราะอะไร หาก ดีแม็ก จอดหยุดนิ่งแล้ว ซิติี มาชน
ซิติีจะเป็นฝ่ายผิด แต่จากความเสียหาย ไม่น่าจะทำให้ ดีแม็ก ไถลไปได้ถึงขนาดนั้น
หาก ดีแม็กเบรค และไม่อยู่นิ่ง ซิติี มาชน ดีแม็ก วิ่งไปชนคันอื่นต่อ ซิตี้รับผิดชอบ ดีแม็ก
ดีแม็ก รับผิดชอบคันหน้า
หากมีความเสียหายตามที่บอก เป็นผม จะสู้เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่เราชนเพียงเท่านั้น จะะทำให้รถที่เราชนไปสร้างความเสียหายต่อขนาดนั้น
รถดิฉันเป็นรถเล็กค่ะ คุณแม่ขับรถไม่เร็ว ไม่เกินร้อย ถนนเป็นสี่เลนส์
ขาไปสอง-ขากลับสอง สภาพรถคือ รถข้างหน้าดิฉัน(ดีแมกซ์) เบรคกระทันทัน
รถดิฉัน(ซิตี้)ที่แม่ขับเบรคไม่ทันจึงชนท้ายกับดิแมกซ์ กระโปรงหน้ารถเรายุบ แต่รถเรายังสามารถขับได้อยู่
ท้ายดีแมกซ์ไม่มีร่องรอยการโดนชนแต่อย่างใด เพราะชนไม่แรง พ่อไม่คาดเข็มขัดก็ไม่ได้เป็นไร
แต่รถดิแมกซ์ถลาไปไกลทำท่าจะเบรค แต่อยู่ๆก็เหมือนเหยียบ
คันเร่งกระโจนขึ้นฟุตบาทลอยข้ามเลนส์ไปทับกับวีโก้อีกเลนส์ที่วิ่งไม่รู้อิโหน่งอิเหน่สวนมา
จากที่บอกก่ำกึ่งว่า รถซิตี้ อาจไม่ผิด เพราะอะไร หาก ดีแม็ก จอดหยุดนิ่งแล้ว ซิติี มาชน
ซิติีจะเป็นฝ่ายผิด แต่จากความเสียหาย ไม่น่าจะทำให้ ดีแม็ก ไถลไปได้ถึงขนาดนั้น
หาก ดีแม็กเบรค และไม่อยู่นิ่ง ซิติี มาชน ดีแม็ก วิ่งไปชนคันอื่นต่อ ซิตี้รับผิดชอบ ดีแม็ก
ดีแม็ก รับผิดชอบคันหน้า
หากมีความเสียหายตามที่บอก เป็นผม จะสู้เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่เราชนเพียงเท่านั้น จะะทำให้รถที่เราชนไปสร้างความเสียหายต่อขนาดนั้น
ความคิดเห็นที่ 75
เรื่องบริษัทประกันภัยโยเย ไร้ความรับผิดชอบ ขอให้โทรไปร้องเรียนที่ คปภ เลยครับ
สายด่วน คปภ เบอร์ 1186
ไม่ว่าคุณจะรับผิดไปแล้วหรืออย่างไร หากศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหาย บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบชดใช้ให้คู่กรณีของคุณครับ (ไม่เกินวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์)
ในกรณีมีผู้บาดเจ็บ จะสามารถเบิกค่ารักษาจากประกัน พรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท(ตามที่จ่ายจริง)ครับ หากจ่ายเงินไปแล้วเท่าไหร่ เมื่อเอาใบเสร็จไปยื่นพร้อมหลักฐานต่างๆ บริษัทประกันภัยต้องจ่ายภายใน 7 วันนับจากได้รับเอกสารครบครับ
ค่าเสียหายจากการบาดเจ็บส่วนที่เกินจาก 5 หมื่นบาทและค่าทำขวัญต่างๆที่ผู้เสียหายเรียกร้อง จะสามารถเบิกได้จากประกันชั้นหนึ่งครับ แต่จะเบิกได้เมื่อ1. บริษัทประกันภัยตกลงยินยอมพร้อมใจและผู้เสียหายพอใจในวงเงินที่จะจ่าย หรือ 2. หากตกลงกันไม่ได้บริษัทประกันภัยจะจ่ายภายใน 30 วันหลังจากมีคำพิพากษาว่าฝ่ายจำเลยต้องจ่ายครับ โดยที่ค่าเสียหายจะไม่เกินวงเงินที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์
สำหรับการต่อสู้คดีแพ่ง การมีประกันชั้นหนึ่ง ปกติบริษัทประกันภัยจะต่อสู้คดีให้เราครับ เรามีหน้าที่ไปเป็นพยานให้ปากคำ(แต่เป็นจำเลยในสำนวนฟ้อง)ในชั้นศาล เพราะเราได้ "โอนสิทธิ์" ความรับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหาย(ในจำนวนวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์)ไปให้บริษัทประกันภัยแล้วตั้งแต่วันที่เราตกลงทำประกันภัยและชำระเบี้ยประกันภัยครับ
แต่สำหรับกรณีที่บริษัทประกันภัยนิสัยแย่ๆ ไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายง่ายๆ เราอาจจะต้องสู้คดีและหาทนายเองครับ โดยที่ผู้เสียหายอาจจะฟ้องแยกระหว่างเรากับบริษัทประกันภัยหรืออาจจะฟ้องรวมกันก็ได้
ส่วนคดีอาญา (อัยการมักจะเป็นโจทย์ หรือบางครั้งผู้เสียหายก็เป็นโจทย์ร่วม) ผู้ประมาท(และเจ้าของรถ)จะเป็นจำเลยครับ บริษัทประกันจะรับผิดชอบในการยื่นประกันตัวเราตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เราต้องหาทนายเอง สู้คดีเอง
เรื่องคดี ผมขอให้อ่านสำนวนฟ้องให้ละเอียดๆ นะครับ ก่อนที่จะรับสารภาพอะไรไปทั้งหมด
คดีเดียวอาจจะแยกเป็นสองส่วนครับ
ความผิดทางแพ่งคือความเสียหายทางแพ่ง ซึ่งยอมความได้ และชดใช้ค่าเสียหายแล้วลงบันทึกไว้ว่าไม่เรียกร้องต่อกันอีก
อีกส่วนนึงคือความผิดทางอาญา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
คดีอาญาข้อหานี้ ถ้าว่ากันตามกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะโดนติดคุกไว้ก่อนเลยครับตั้งแต่วันที่ยอมรับข้อกล่าวหาจนกว่าจะสู้คดีเสร็จ เว้นแต่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวออกมาในระหว่างสู้คดีได้
ปกติเค้าจะฟ้องคดีแพ่งก่อนครับ เมื่อได้รับค่าเสียหายที่ฝ่ายโจทย์พอใจ ก็จะเป็นเหตุบรรเทาโทษในคดีอาญาได้ทำให้คุณไม่ต้องติดคุก
ส่วนคดีอาญา หากไม่ใช่คดีร้ายแรงแบบฆ่าคนตายโดยเจตนา ปกติผู้เสียหายมักจะไม่ได้เป็นผู้ฟ้องครับเพราะฟ้องแล้วเค้าไม่ได้อะไรเค้าเสียค่าทนายเปล่าๆ อัยการต่างหากที่เป็นผู้ยื่นฟ้องคดีอาญาเพราะเรากระทำความผิดทางอาญา(ตามสำนวนฟ้องที่ตำรวจทำมา) เว้นแต่ว่าผู้เสียหายโดนยุจากตำรวจหรือผู้เสียหายเกลียดเรามากๆอยากให้เราติดคุก ผู้เสียหายจึงจะตั้งทนายฟ้องคดีอาญาพ่วงไปกับคดีแพ่ง
หากคนเขียนสำนวน(ตำรวจ)เกลียดคุณหรืออยากได้เงินจากคุณ เค้าจะเขียนสำนวนให้ดูเหมือนคุณมีความผิดร้ายแรง ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง อีกฝ่ายนึงบาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย และใส่ไข่ไปว่า 1. คุณมีเจตนาหลบหนี 2. ไม่ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเลย 3. ไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บ และอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้ศาลอ่านแล้วไม่พิจารณาให้ประกันตัวหรือเรียกเงินประกันสูงๆ และอาจจะพิจารณาว่าการจำคุกไม่ควรรอลงอาญา
อ่านสำนวนดีๆ ครับ ให้ทนายที่คุณไว้ใจได้ช่วยอ่าน ก่อนจะเซ็นชื่อรับสารภาพ
เท่าที่ผมอ่านส่วนที่คุณบรรยายมา ผมแนะนำว่าอย่าเชื่อบริษัทประกันภัยบริษัทนี้ครับ ไม่งั้นคุณจะติดคุกแน่นอน
เรื่องบันทึกประจำวันและเอกสารต่างๆ ที่คุณหรือคุณแม่เซ็นยอมรับอะไรไปแล้ว คุณสามารถอ้างในชั้นศาลได้ครับว่า เซ็นด้วยความกลัวหรือถูกบังคับขู่เข็ญจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนครับที่เวลาเกิดอุบัติเหตุมีคนบาดเจ็บสาหัสจะเกิดความตื่นตระหนก กลัว เชื่อคำแนะนำของตำรวจ.....โดยไม่ได้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนลงชื่อ เราสามารถอ้างในชั้นศาลได้ครับว่าเราไม่ได้อ่านข้อความนั้น เค้าบอกให้เซ็นก็เซ็น
ผมอยากทราบจังเลยว่าบริษัทอะไร ผมจะได้แนะนำลูกค้าให้หลีกเลี่ยงบริษัทนี้ครับ หากบอกตรงนี้ไม่ได้ บอกหลังไมค์ก็ได้ครับ
......ถือซะว่าช่วยคนจำนวนมากไม่ให้ต้องรับกรรมจากบริษัทนี้อีกครับ
<<<<มาเขียนเพิ่มว่า มีความเห็นย่อยเพิ่มเติมอีก 2 ความเห็นครับ >>>>
V
V
V
V
V
V
สายด่วน คปภ เบอร์ 1186
ไม่ว่าคุณจะรับผิดไปแล้วหรืออย่างไร หากศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหาย บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบชดใช้ให้คู่กรณีของคุณครับ (ไม่เกินวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์)
ในกรณีมีผู้บาดเจ็บ จะสามารถเบิกค่ารักษาจากประกัน พรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท(ตามที่จ่ายจริง)ครับ หากจ่ายเงินไปแล้วเท่าไหร่ เมื่อเอาใบเสร็จไปยื่นพร้อมหลักฐานต่างๆ บริษัทประกันภัยต้องจ่ายภายใน 7 วันนับจากได้รับเอกสารครบครับ
ค่าเสียหายจากการบาดเจ็บส่วนที่เกินจาก 5 หมื่นบาทและค่าทำขวัญต่างๆที่ผู้เสียหายเรียกร้อง จะสามารถเบิกได้จากประกันชั้นหนึ่งครับ แต่จะเบิกได้เมื่อ1. บริษัทประกันภัยตกลงยินยอมพร้อมใจและผู้เสียหายพอใจในวงเงินที่จะจ่าย หรือ 2. หากตกลงกันไม่ได้บริษัทประกันภัยจะจ่ายภายใน 30 วันหลังจากมีคำพิพากษาว่าฝ่ายจำเลยต้องจ่ายครับ โดยที่ค่าเสียหายจะไม่เกินวงเงินที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์
สำหรับการต่อสู้คดีแพ่ง การมีประกันชั้นหนึ่ง ปกติบริษัทประกันภัยจะต่อสู้คดีให้เราครับ เรามีหน้าที่ไปเป็นพยานให้ปากคำ(แต่เป็นจำเลยในสำนวนฟ้อง)ในชั้นศาล เพราะเราได้ "โอนสิทธิ์" ความรับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหาย(ในจำนวนวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์)ไปให้บริษัทประกันภัยแล้วตั้งแต่วันที่เราตกลงทำประกันภัยและชำระเบี้ยประกันภัยครับ
แต่สำหรับกรณีที่บริษัทประกันภัยนิสัยแย่ๆ ไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายง่ายๆ เราอาจจะต้องสู้คดีและหาทนายเองครับ โดยที่ผู้เสียหายอาจจะฟ้องแยกระหว่างเรากับบริษัทประกันภัยหรืออาจจะฟ้องรวมกันก็ได้
ส่วนคดีอาญา (อัยการมักจะเป็นโจทย์ หรือบางครั้งผู้เสียหายก็เป็นโจทย์ร่วม) ผู้ประมาท(และเจ้าของรถ)จะเป็นจำเลยครับ บริษัทประกันจะรับผิดชอบในการยื่นประกันตัวเราตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เราต้องหาทนายเอง สู้คดีเอง
เรื่องคดี ผมขอให้อ่านสำนวนฟ้องให้ละเอียดๆ นะครับ ก่อนที่จะรับสารภาพอะไรไปทั้งหมด
คดีเดียวอาจจะแยกเป็นสองส่วนครับ
ความผิดทางแพ่งคือความเสียหายทางแพ่ง ซึ่งยอมความได้ และชดใช้ค่าเสียหายแล้วลงบันทึกไว้ว่าไม่เรียกร้องต่อกันอีก
อีกส่วนนึงคือความผิดทางอาญา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
คดีอาญาข้อหานี้ ถ้าว่ากันตามกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะโดนติดคุกไว้ก่อนเลยครับตั้งแต่วันที่ยอมรับข้อกล่าวหาจนกว่าจะสู้คดีเสร็จ เว้นแต่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวออกมาในระหว่างสู้คดีได้
ปกติเค้าจะฟ้องคดีแพ่งก่อนครับ เมื่อได้รับค่าเสียหายที่ฝ่ายโจทย์พอใจ ก็จะเป็นเหตุบรรเทาโทษในคดีอาญาได้ทำให้คุณไม่ต้องติดคุก
ส่วนคดีอาญา หากไม่ใช่คดีร้ายแรงแบบฆ่าคนตายโดยเจตนา ปกติผู้เสียหายมักจะไม่ได้เป็นผู้ฟ้องครับเพราะฟ้องแล้วเค้าไม่ได้อะไรเค้าเสียค่าทนายเปล่าๆ อัยการต่างหากที่เป็นผู้ยื่นฟ้องคดีอาญาเพราะเรากระทำความผิดทางอาญา(ตามสำนวนฟ้องที่ตำรวจทำมา) เว้นแต่ว่าผู้เสียหายโดนยุจากตำรวจหรือผู้เสียหายเกลียดเรามากๆอยากให้เราติดคุก ผู้เสียหายจึงจะตั้งทนายฟ้องคดีอาญาพ่วงไปกับคดีแพ่ง
หากคนเขียนสำนวน(ตำรวจ)เกลียดคุณหรืออยากได้เงินจากคุณ เค้าจะเขียนสำนวนให้ดูเหมือนคุณมีความผิดร้ายแรง ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง อีกฝ่ายนึงบาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย และใส่ไข่ไปว่า 1. คุณมีเจตนาหลบหนี 2. ไม่ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเลย 3. ไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บ และอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้ศาลอ่านแล้วไม่พิจารณาให้ประกันตัวหรือเรียกเงินประกันสูงๆ และอาจจะพิจารณาว่าการจำคุกไม่ควรรอลงอาญา
อ่านสำนวนดีๆ ครับ ให้ทนายที่คุณไว้ใจได้ช่วยอ่าน ก่อนจะเซ็นชื่อรับสารภาพ
เท่าที่ผมอ่านส่วนที่คุณบรรยายมา ผมแนะนำว่าอย่าเชื่อบริษัทประกันภัยบริษัทนี้ครับ ไม่งั้นคุณจะติดคุกแน่นอน
เรื่องบันทึกประจำวันและเอกสารต่างๆ ที่คุณหรือคุณแม่เซ็นยอมรับอะไรไปแล้ว คุณสามารถอ้างในชั้นศาลได้ครับว่า เซ็นด้วยความกลัวหรือถูกบังคับขู่เข็ญจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนครับที่เวลาเกิดอุบัติเหตุมีคนบาดเจ็บสาหัสจะเกิดความตื่นตระหนก กลัว เชื่อคำแนะนำของตำรวจ.....โดยไม่ได้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนลงชื่อ เราสามารถอ้างในชั้นศาลได้ครับว่าเราไม่ได้อ่านข้อความนั้น เค้าบอกให้เซ็นก็เซ็น
ผมอยากทราบจังเลยว่าบริษัทอะไร ผมจะได้แนะนำลูกค้าให้หลีกเลี่ยงบริษัทนี้ครับ หากบอกตรงนี้ไม่ได้ บอกหลังไมค์ก็ได้ครับ
......ถือซะว่าช่วยคนจำนวนมากไม่ให้ต้องรับกรรมจากบริษัทนี้อีกครับ
<<<<มาเขียนเพิ่มว่า มีความเห็นย่อยเพิ่มเติมอีก 2 ความเห็นครับ >>>>
V
V
V
V
V
V
แสดงความคิดเห็น
เครียดมาก ขับรถไปชนท้ายรถคันอื่น มีผู้บาดเจ็บสาหัส